โบท็อกซ์ คืออะไร ?
นวัตกรรมสารลดเลือนริ้วรอย ยกกระชับ ปรับรูปหน้าด้วย โบท็อกซ์
โบท็อกซ์ คือ สารสกัดที่เรียกว่า “โบทูลินัม ท็อกซิน เอ” (Botulinum toxin A) จากแบคทีเรียคลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium botulinum) เป็นนวัตกรรมเพื่อการลดริ้วรอยและปรับรูปใบหน้าซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน มีงานวิจัยที่รองรับถึงเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยอย่างกว้างขวาง เพราะให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เพียงลดเลือนริ้วรอยและปรับรูปหน้า
วิธีการทำงานของ โบทูลินัม ท็อกซิน เอ เป็นอย่างไร?
เมื่อแพทย์ฉีดเข้าไป สารโบทูลินัมท็อกซินมีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์ประสาทไม่ให้ผลิตสารอะซีติลโคลีน (Acetylcholine) ซึ่งเป็นสารที่สั่งให้กล้ามเนื้อยืดและหดตัว ส่งผลให้ “กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว” โดยเมื่อนำสารสารโบทูลินัมท็อกซินมาสกัดให้บริสุทธิ์ สามารถนำไปใช้รักษาทางการแพทย์และเพื่อความงามได้ หากเป็นกล้ามเนื้อที่ใช้ในการแสดงสีหน้า หยีตา เลิกหน้าผาก ขมวดคิ้ว ย่นจมูก ผลลัพธ์ที่ได้คือ ริ้วรอยจะดูหายไป ในส่วนกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ เช่น กล้ามเนื้อกราม ผลลัพธ์ที่จะได้คือกรามดูเล็กลง เนื่องจากกล้ามเนื้อค่อย ๆ มีขนาดเล็กลงนั่นเอง
โบท็อกซ์ฉีดจุดใดได้บ้าง?


ฉีดลดริ้วรอย
หางตา : ริ้วรอยรอบดวงตาและหางตา ส่วนใหญ่จะมาจากการแสดงสีหน้า การยิ้ม หัวเราะ ทำให้เกิดริ้วรอย ที่เรียกกันว่า ‘ตีนกา’ การฉีดลดริ้วรอยบริเวณนี้จะช่วยทำให้ริ้วรอยและรอยย่นเลือนหายไป
หน้าผาก : ริ้วรอยบนหน้าผากเกิดจากการแสดงอารมณ์ สีหน้า และเมื่อเวลาผ่านไปริ้วรอยบริเวณนี้จะเริ่มลึกขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งการฉีดลดริ้วรอยบนหน้าผากสามารถช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นเหล่านี้ได้
ระหว่างคิ้ว : ระหว่างคิ้วเป็นบริเวณนี้เกิดริ้วรอยได้ง่ายมาก รอยย่นระหว่างคิ้วทำให้ใบหน้าดูแก่ ไม่สดใส การฉีดลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว จะช่วยยับยั้งการหดตัวและทำให้ผิวหนังส่วนบนเรียบขึ้น
ฉีดปรับรูปหน้าลดกราม
เมื่อฉีดลดกล้ามเนื้อบริเวณกราม จะช่วยให้กล้ามเนื้อกรามคลายตัวและอ่อนแรงลง เมื่อกล้ามเนื้อส่วนนี้อ่อนแรงจึงไม่มีการทำงาน ส่งผลให้กล้ามเนื้อค่อย ๆ หดเล็กลง จึงช่วยให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น การฉีดลดขนาดกล้ามเนื้อกรามสามารถฉีดซ้ำได้ทุก ๆ 6 เดือน เหมาะสำหรับคนที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ และต้องการให้หน้าเรียวขึ้นโดยไม่ผ่าตัด

ลดปีกจมูก : บริเวณปีกจมูกจะมีกล้ามเนื้อที่ใช้ขยายรูจมูก ส่งผลทำให้รูจมูกดูใหญ่ขึ้น จมูกดูไม่เรียวเล็ก ซึ่งเราสามารถฉีดลดปีกจมูก เพื่อทำให้จมูกดูเล็กลงได้ เนื่องจากกล้ามเนื้อที่ใช้ยกและขยายรูจมูกจะไม่ทำงาน ปีกจมูกจะลู่ลงทำให้จมูกดูเล็กลง
รัดแกนจมูก : คือการฉีดบริเวณสันจมูกในส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อที่เหมือนหูรูดของจมูก เมื่อกล้ามเนื้อมัดนี้หดตัวจะกดสันจมูกและกดจมูกอ่อนให้ยุบตัวลง เมื่อกล้ามเนื้อส่วนนี้คลายตัว สันจมูกจะดูยกขึ้น ดูเป็นสันขึ้น ช่วยลดรอยย่นบริเวณสันจมูกที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ ให้ดูเรียบขึ้น การฉีดโบทูลินุ่มฯรัดแกนจมูกสามารถฉีดได้ต่อเนื่องเพื่อคงผลลัพธ์ได้หลังจาก 3-4 เดือน
ฉีดยกกระชับ ลิฟต์หน้า
เป็นการฉีดโบทูลินุ่มฯในผิวชั้นตื้นบริเวณรอบ ๆ กรอบหน้า โดยใช้เทคนิคที่ฉีดกรอบหน้าเท่านั้น เพื่อยกกระชับใบหน้าทำดูมีมิติขึ้น ทำให้เกิดการยกกระชับผิว ทำให้เห็นกรอบหน้าชัดยิ่งขึ้น หลัง 2 สัปดาห์แล้ว จะเห็นถึงผลการกระชับและตึงขึ้นของผิว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการกระชับผิวแบบเร่งด่วน สามารถทำซ้ำได้หลัง 6 เดือนขึ้นไป

Botox เหมาะกับใคร

การเตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อกซ์
1. หากกลัวว่าจะช้ำง่าย ควรทานอาหารเสริมประเภทวิตามินอี น้ำมันปลา โสม หรือสมุนไพรที่ทำให้ร่างกายร้อน ประมาณ 2-3 วันก่อนฉีด
2. ห้ามกินยาแก้อักเสบหรือแอสไพรินก่อนการฉีดยา 1 อาทิตย์
3. แพทย์จะงดฉีดโบทูลินุ่มฯ สำหรับสตรีมีครรภ์ และให้นมบุตร
4. หาข้อมูลเพื่อความมั่นใจว่าจะได้ฉีดโบทูลินุ่มฯของแท้ กับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น
ข้อแนะนำหลังฉีดโบท็อกซ์
1. หลังฉีดทันทีควรขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที เพื่อให้ตัวยาถูกดูดซึมและทำงานกับกล้ามเนื้อได้ดี
2. ห้ามสัมผัส นวดคลึงบริเวณที่ฉีด รวมไปถึงการนวด สปาหน้า ด้วย เพราะการฉีดลดริ้วรอย คลายกล้ามเนื้อ หรือลดขนาดกล้ามเนื้อ คือการฉีดเฉพาะจุด ยาจะถูกวางไว้บริเวณนั้น ๆ เพื่อบล็อกกล้ามเนื้อ หากไปนวดคลึง อาจทำให้ตัวยากระจายไปโดนส่วนที่เราไม่ต้องการ และทำให้ผลที่ได้คลาดเคลื่อนจากที่แพทย์วางแผน
3. งดการนอนราบเป็นเวลา 3-4 ชั่วโมง ด้วยเหตุผลที่ว่า เราต้องการให้ตัวยาอยู่ที่บริเวณที่ฉีดจนถูกดูดซึมและทำปฏิกิริยากับกล้ามเนื้อเฉพาะบริเวณนั้น ๆ
4. งดการใช้ความร้อนเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นการทำเลเซอร์ผิวพรรณ การเข้าซาวน่า การอาบน้ำอุ่นจัด เพราะความร้อนมีผลต่อการทำงานของโบทูลินุ่มฯในช่วงที่กำลังออกฤทธิ์ 1-2 สัปดาห์แรก
5. ควรฉีดลดริ้วรอยอย่างต่อเนื่อง ตามมาตรฐานการรักษา เพราะมีการวิจัยออกมาแล้วว่า หากลดริ้วรอย 4 ครั้งต่อเนื่อง ห่างกัน 3-6 เดือนในแต่ละครั้ง จะช่วยยืดอายุให้การรักษาริ้วรอยอยู่ได้นานขึ้นเรียกว่ากึ่งฐาวร ทำให้การรักษานั้นคุ้มค่า และหลังจากครั้งที่ 4 ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องฉีดลดริ้วรอยถี่ ๆ เหมือนเคย
6. ไม่ควรฉีดโบทูลินุ่มฯถี่จนเกินไป เพราะการฉีดก่อนเวลาที่เหมาะสมจะทำให้ร่างกายสร้าง antibody ทำให้เกิดการ “ดื้อยา” หมายความว่า เมื่อฉีดลดริ้วรอยครั้งต่อไป จะทำให้ไม่เห็นผลลัพธ์ และไม่สามารถรู้ได้ด้วยว่าร่างกายจะกลับมารับโบทูลินุ่มได้อีกเมื่อไหร่ อาจทำให้ใครหลาย ๆ คนทุกข์ใจและกังวลกับริ้วรอยที่จำเป็นต้องใช้วิธีฉีดโบทูลินุ่มแก้เท่านั้น

รีวิว โบท๊อกซ์
Previous
Next