ข้อดี-ข้อเสีย ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • ช่วยแก้ปัญหาใต้ตาได้หลากหลาย และเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว
  • ช่วยเติมเต็มให้ผิวใต้ดวงตากลับมาดูเต็ม สดใส อ่อนเยาว์มากขึ้น
  • ช่วยแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ แก้ปัญหาร่องลึกใต้ดวงตาให้ดีขึ้น
  • ช่วยทำให้ดวงตาดูสดใสขึ้น หมดปัญหาใต้ตาคล้ำโทรมจนดูแก่กว่าวัย
  • ช่วยทำให้ผิวรอบดวงตาดูเรียบเนียน ริ้วรอยดูลดน้อยลง
  • เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ดูดีขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัดหรือพักฟื้นนาน
  • การฉีดฟิลเลอร์ยังช่วยกักเก็บน้ำใต้ผิวได้ดี ทำให้ผิวชุ่มชื้น ดูสุขภาพดีขึ้น
  • เป็นวิธีที่ปลอดภัย เพราะฟิลเลอร์สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • การฉีดฟิลเลอร์จะไม่สามารถอยู่ได้ถาวร โดยจะอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน จึงต้องกลับมาฉีดซ้ำ
  • สำหรับคนที่อายุเยอะ หรือมีสภาพผิวที่หย่อนคล้อยมาก ฟิลเลอร์อาจสลายได้ง่าย จึงทำให้ต้องกลับมาฉีดซ้ำ
  • ฟิลเลอร์จะสลายเร็วขึ้นเมื่อเจอความร้อน หรือต้องทำกิจกรรมที่สัมผัสความร้อนบ่อยๆ เช่น ออกกำลังกาย อบซาวน่า ทำเลเซอร์
  • อาจมีความเสี่ยงเรื่องฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญหรือไม่มีประสบการณ์ แต่ถ้าใช้ฟิลเลอร์แท้จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยการฉีดยาสลายฟิลเลอร์
  • ผิวใต้ดวงตานั้นบอบบางมาก หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับหมอเถื่อน หมอกระเป๋า หรือแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ก็อาจทำให้ตอนฉีดปลายเข็มไปสะกิดถูกเส้นเลือดบริเวณใต้ตาจนทำให้เกิดรอยเขียวช้ำหลังฉีดได้ จึงควรเลือกใช้บริการคลินิกที่มีมาตรฐาน มีแพทย์ที่ชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

 

วิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์ มีหลายชนิด หลายยี่ห้อ ถ้าเป็น ฟิลเลอร์ แท้ ที่มีสาร Hyaluronic Acid 100 % และฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการจะปลอดภัยสูง เพราะสามารถย่อยสลายไปเองตามกระบวนการธรรมชาติ ไม่มีสารตกค้าง โดยทั่วไปหากเป็นฟิลเลอร์ แท้ จะอยู่ได้ประมาณ 18-24 เดือนก็จะสลายออกไปหมด ไม่เหลือตกค้างให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย

  • งดการนวดคลึงบริเวณรอบดวงตาแรงๆ หลังฉีดฟิลเลอร์
  • งดนอนราบหลังฉีดฟิลเลอร์ 3-4 ชั่วโมง
  • งดแต่งหน้าหรือทาครีมบำรุงผิว หลังฉีดฟิลเลอร์ 12 ชั่วโมง
  • สามารถประคบเย็นได้ตามคำแนะนำของแพทย์ จะช่วยลดอาการบวมได้ดี
  • ไม่ควรจับหรือเกาบริเวณใต้ตา เพราะตัวยาอาจเคลื่อนไปอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ต้องการได้
  • หลีกเลี่ยงการทำทรีทเมนต์บริเวณใบหน้า และงดทำเลเซอร์ร้อน อย่างน้อย 2-3 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสความร้อนที่บริเวณใต้ตา เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น
  • ควรงดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น
  • รับประทานยาตามที่แพทย์จ่ายให้ หลังฉีดอาจมีอาการบวมแดงบริเวณที่ฉีดได้ แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
  • ควรดื่มน้ำให้มากๆ อย่างน้อยวันละ 1-2 ลิตร เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ห้ฟิลเลอร์จะเซ็ตตัวเร็วและอยู่ได้นานขึ้น
  • ภายใน 48 ชั่วโมงหลังฉีด ไม่ควรออกกำลังกายหรือตากแดด และงดทำกิจกรรมที่ต้องใช้ความร้อน เช่น อบซาวน่า ทานอาหารที่ทำให้เหงื่อออก ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์สลายได้เร็วขึ้น

ขอสรุปว่า การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถช่วยแก้ปัญหาผิวรอบดวงตาได้หลากหลาย ตั้งแต่ปัญหาขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำจากภูมิแพ้ ช่วยลดถุงใต้ตาได้ ช่วยลดเลือนริ้วรอยใต้ดวงตา ช่วยเติมเต็มผิวรอบดวงตาให้กลับมาดูเต่งตึงสดใสอีกครั้ง โดยจะห็นถึงผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันทีหลังฉีด ส่วนใครที่กังวลว่าจะเป็นอันตรายหรือเปล่า ก็ควรเลือกใช้ฟิลเลอร์ของแท้เท่านั้น และฉีดกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ก็จะช่วยลดโอกาสเกิดอันตราย และลดปัญหาฉีดแล้วเป็นก้อนได้ ก่อนที่จะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติและมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด