ทำความรู้จักกับฟิลเลอร์ Juvederm

Juvederm มีกี่รุ่น? แต่ละรุ่นเหมาะฉีดจุดไหน? และจะตรวจสอบอย่างไรว่าเป็นฟิลเลอร์ Juvederm ของแท้?

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง สิ่งที่สำคัญที่สุดเพื่อความมั่นใจ คือการตรวจสอบฟิลเลอร์ ซึ่งต้องดูบริเวณข้างกล่องและหลอดของฟิลเลอร์ จะปรากฏ Lot No.,วันที่ผลิต,วันหมดอายุ และเลขที่อ้างอิง (Reference No.)สามารถตรวจสอบอ้างอิงกลับไปยังผู้ผลิตได้ คุณหมอควรแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง

ฟิลเลอร์ Juvederm ถือเป็นแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายมายาวนาน การันตีได้ถึงคุณภาพและความปลอดภัย แต่ทั้งนี้ต้องมั่นใจว่าฟิลเลอร์ที่ฉีด เป็นฟิลเลอร์ Juvederm ของแท้ นำเข้ามาอย่างถูกต้อง หากเจอฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์หิ้ว ฉีดแล้วไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดหวัง และอาจเกิดอันตราย ฟิลเลอร์แท้ต้องสามารถตรวจสอบอ้างอิงกลับไปยังผู้ผลิตได้ คุณหมอควรแกะกล่องฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง และเลือกคลินิกที่มีรางวัลการันตี เชื่อถือได้

• มีเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับภาษาไทยอยู่ภายในกล่อง
• กล่องมี 2 cc และเลข lot ต้องตรงกัน 4 จุด คือ
เลข lot ที่กล่อง
เลข lot ที่ซอง
เลข lot ที่สติกเกอร์
เลข lot ที่หลอด
• สามารถโทรเช็คเลข lot. และคลินิกได้ที่บริษัท แอลเลอร์แกน (ประเทศไทย) จำกัด โทร.02 640 4999 ต่อ 1

คุณสมบัติเด่น ของฟิลเลอร์ Juvederm จุดเด่นของ ฟิลเลอร์ Juvederm คือ เป็นฟิลเลอร์คุณภาพสูง โดดเด่นในเรื่องของการฉีดแล้วผิวยกกระชับขึ้น และมีส่วนผสมของยาชา (Lidocaine) จึงช่วยให้ขณะฉีดคนไข้ไม่รู้สึกเจ็บ นอกจากนี้ฟิลเลอร์ Juvederm ยังมีการใช้เทคโนโลยีในกระบวนการผลิต 2 เทคโนโลยี คือ Hylacross และ Vycross Technology ที่ถือเป็นลักษณะเฉพาะของฟิลเลอร์ Juvederm แบรนด์ฟิลเลอร์ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีผลิตภัณฑ์ออกมาหลายรุ่น เพื่อตอบโจทย์การฉีดฟิลเลอร์ในผิวที่แตกต่างกัน

ฟิลเลอร์ Juvederm มีกี่รุ่น แต่ละรุ่นเหมาะกับส่วนไหน?

ฟิลเลอร์ Juvederm มีทั้งหมด 6 รุ่น ที่มีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันไป ซึ่งการเลือกว่าแต่ละเคสหรือแต่ละปัญหาควรใช้ฟิลเลอร์รุ่นไหน ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ รวมไปถึงงบประมาณที่คนไข้ตั้งไว้ครับ โดยฟิลเลอร์ Juvederm แต่ละรุ่น มีความแตกต่างกัน ดังนี้

1. Juvederm Ultra Plus
จุดเด่น : ฟิลเลอร์ Juvederm Ultraplus เป็นรุ่นที่มีลักษณะเนื้อนิ่ม ฉีดแล้วฟูมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องลึก จากการเปลี่ยนแปลงตามวัย หลังฉีดช่วยให้บริเวณที่เป็นแอ่ง ร่องลึก เต็มสวยขึ้น
เหมาะกับ : ขมับ ปาก ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
อยู่ได้นาน : 12 เดือน

2. Juvederm Voluma
จุดเด่น : ฟิลเลอร์ Juvederm Voluma เป็นรุ่นที่มีลักษณะเนื้อแข็งและฟูปานกลาง มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงมีความยืดหยุ่นสูง สามารถฉีดในจุดที่มีการขยับบ่อย ๆ ได้
เหมาะกับ : ใต้ตา คาง ขมับ ปาก ร่องแก้ม
อยู่ได้นาน : 24 เดือน

3. Juvederm Volift
จุดเด่น : ฟิลเลอร์ Juvederm Volift เป็นฟิลเลอร์รุ่นที่มีลักษณะเนื้อนิ่มและละเอียดมากกว่ารุ่น ultra plus จึงเหมาะกับคนผิวบาง นิยมใช้ฉีดบริเวณที่มีปัญหาไม่ลึกมาก สามารใช้เก็บรายละเอียดร่องแก้มชั้นตื้นได้ดี
เหมาะกับ : ปาก แก้มตอบ มุมปาก ร่องแก้ม หว่างคิ้ว
อยู่ได้นาน : 18 เดือน

4. Juvederm Volbella
จุดเด่น : ฟิลเลอร์ Juvederm Volbella เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีโมเลกุลขนาดเล็ก มีความละเอียดมากที่สุด จึงเหมาะสำหรับการเติมบริเวณที่ต้องการความเรียบเนียน หลังฉีดได้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน
เหมาะกับ : หน้าผาก
อยู่ได้นาน : 12 เดือน

5. Juvederm Volite
จุดเด่น : ฟิลเลอร์ Juvederm Volite เป็นฟิลเลอร์รุ่นเนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยบำรุงผิว มีความเป็นธรรมชาติ จึงเหมาะกับคนผิวค่อนข้างบาง ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน
เหมาะกับ : ใต้ตา บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
อยู่ได้นาน : 9 เดือน

6. Juvederm Volux
จุดเด่น : ฟิลเลอร์ Juvederm Volux เป็นรุ่นที่มีการพัฒนาใหม่ล่าสุด เนื้อแข็ง มีโมเลกุลขนาดใหญ่ จึงมีความยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงสวย และคงรูปได้ดีที่สุด ฉีดแล้วอยู่ได้นาน
เหมาะกับ : คาง ใต้ตา ขมับ ร่องแก้มชั้นลึก
อยู่ได้นาน : 18-24 เดือน